อุโบสถ ครูบาศรีวิชัย
ตามรอยนักบุญแห่งล้านนา ปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญต่อจังหวัดลำพูน ความศรัทธาไม่เคยจางหาย กับเส้นทางท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ร่วมค้นหารากเหง้าทางวัฒนธรรมที่งดงาม แหล่งอารยธรรม ยุคแรกของอาณาจักรล้านนา เป็นเมืองโบราณเก่าแก่ที่สุดในภาคเหนืออายุกว่า ๑,๓๐๐ ปี
ครูบาศรีวิชัย เป็นพระที่สร้างคุณูปการมากมายไว้ในใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนาและแผ่นดินล้านนา ถือได้ว่าเป็นแบบอย่างของพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบที่เกจิรุ่นหลังเดินตามรอยพระศาสนา จนเป็นแบบอย่างของพระนักพัฒนาในเวลาต่อมา
ท่านเกิดเมื่อวันอังคารขึ้น ๑๑ ค่ำปีขาล ตรงกับวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๔๒๐ เวลาพลบค่ำ เมื่ออายุได้ ๑๘ ปี ท่านได้ไปอยู่วัดบ้านปาง เพื่อศึกษาเล่าเรียนและได้บวชเป็นสามเณรกับพระอาจารย์ขัติยะ หรือ ครูบาแข้งแขะ
จนเมื่ออายุได้ ๒๑ ปี จึงได้อุปสมบทที่วัดบ้านโฮ่งหลวง จังหวัดลำพูน โดยมีครูบาสม สมฺโณ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้รับฉายาว่า “สิริวิชโย ภิกขุ” แต่ชาวบ้านจะเรียกท่านว่า “พระศรีวิชัย”
ครูบาศรีวิชัยได้ชื่อว่าเป็นพระนักพัฒนาโดยแท้ ได้พัฒนาก่อสร้างปฏิสังขรณ์ศาสนสถานมากมาย เมื่อครั้งที่ท่านจาริกไปในสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดลำพูนและดินแดนล้านนา อีกทั้งเป็นที่เคารพรักของพุทธศาสนิกชนทั่วสารทิศ
จังหวัดลำพูน โดย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน บูรณาการร่วมกับองค์กรภาครัฐ และเอกชน ได้พัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยวตามรอยวิถีครูบาศรีวิชัย เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ด้านการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดลำพูน เปิดเส้นทางท่องเที่ยว “ตามรอยวิถีครูบาศรีวิชัย”
ตลอดเส้นทางท่องเที่ยว ได้เรียนรู้แหล่งอารยธรรม สัมผัสวิถีชีวิตความป็นอยู่ของผู้คนในชุมชน ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ตลอดจนธรรมชาติที่สวยงาม และการต้อนรับด้วยมิตรไมตรีจากผู้คนในชุมชนตลอดเส้นทางการท่องเที่ยว สร้างความประทับใจให้อย่างมิรู้ลืม
 
						
					วัดบ้านโฮ่งหลวง เป็นสถานที่ที่ครูบาศรีวิชัยได้อุปสมบท ทั้งตอนเป็นสามเณรและพระภิกษุ และยังเป็นสถานที่ที่ครูบาใช้แวะพักทุกครั้งเมื่อได้เดินทาง จากลี้เข้าตัวเมืองลำพูน และที่พิเศษกว่านั้นที่อื่นนั้นก็ คือ ที่นี่มีอัฐิครูบาศรีวิชัย ที่ไม่ได้เก็บรักษาไว้ในเจดีย์เหมือนที่อื่นๆ โดยในทุกๆปีจะมีการนำอัฐิครูบาออกมาทำพิธีสรงน้ำอัฐิ
สำหรับวัดบ้านโฮ่งหลวง จะเแบ่งสถานที่ออกเป็น ๒ แห่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมากราบไหว้ อุโบสถเก่าแก่จะตั้งอยู่ด้านนอกติดถนน คนละฝั่งกับวัด วัดจะเข้าไปในซอยเล็กน้อย สำหรับอุโบสถผู้หญิงไม่อนุญาตให้เข้าด้านใน แต่สามารถเดินชมบริเวณรอบนอกได้
ประวัติ : บริเวณที่ตั้งของอุโบสถอุปสัมปทาสถานครูบาศรีวิชัย วัดบ้านโฮ่งหลวง และอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดบ้านโฮ่งหลวงเดิม เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มีประวัติมายาวนาน และมีความสำคัญต่ออำเภอบ้านโฮ่งผู้ที่มาเยือนอำเภอบ้านโฮ่งต้องเดินทางมาสักการะ
อุโบสถอุปสัมปทาสถานครูบาศรีวิชัย วัดบ้านโฮ่งหลวง เป็นสถานที่อุปสมบท ครูบาศรีวิชัย สมัยเป็นสามเณรอินท์เฟือน เมื่อปี พ.ศ. 2442 โดยมีครูบาสมณะ วัดบ้านโฮ่งหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับนามฉายาในการอุปสมบทว่า สิริวิชโยภิกขุ มีนามบัญญัติว่า พระศรีวิชัย ซึ่งบางครั้งก็พบว่าเขียนเป็น สรีวิไชย สิวิไชหรือสรีวิชัย
อนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย เป็นรูปล่อทองสัมฤทธิ์ บรรจุอัฐิครูบาศรีวิชัย เป็นรูปเหมือนครูบาศรีวิชัย ซึ่งพระครูศีลาภรณ์พิมล (ครูบาบุญมาสีราภิรโต) เจ้าคณะแขวงอำเภอบ้านโฮ่ง เจ้าอาวาสวัดบ้านโฮ่งหลวงในสมัยนั้น (ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของครูบาศรีวิชัย)
ได้รับมาหลังจากที่ครูบาศรีวิชัยได้มรณภาพลงและได้รับพระทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ ณ วัดจามเทวี อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน และนำมาประดิษฐาน ณ บริเวณด้านข้างอุโบสถอุปสัมปทา
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2554 ปัจจุบัน วัดบ้านโฮ่งหลวง ได้ย้ายไปอยู่สถานที่ใหม่ เนื่องจากเดิมบริเวณนี้ประสบภัยน้ำท่วม จึงได้ย้ายไปอยู่สถานที่ใหม่ คงเหลือแต่ อุโบสถอุปสัมปทาสถานครูบาศรีวิชัย วัดบ้านโฮ่งหลวง และอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เพื่อเป็นสถานที่ให้ผู้เคารพศรัทธาได้มาสักการะบูชาเมื่อมาเยือนอำเภอบ้านโฮ่ง
ดอยดวงแก้ว พระมหาเจดีย์ดวงแก้วสัพพัญญู
 
						
					 
						
					 
						
					ขอบคุณข้อมูลจาก https://pukmudmuangthai.com/detail/35523
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.lamphun.go.th/th/attractions
เชิญท่องเที่ยววัดดอยดวงแก้ว เชิญเที่ยวเชียงใหม่ ประวัติครูบา
