ดอยดวงแก้ว พระกริ่งสีวลี ผู้มีชัยชนะแห่งแผ่นดิน

ดอยดวงแก้ว พระกริ่งสีวลีโภคทรัพย์ ผู้มีชัยชนะแห่งแผ่นดิน

พระกริ่งสีวลีโภคทรัพย์ ด้านหลังประทับยันต์นกยูงทอง วิชาจากเทพประทาน ปลุกเสกโดย ครูบาชัยยาปัถพี  ชัยยรัตนจิตโต 

เจ้าตำรายันต์นกยูงทอง วิชาจากเทพประทาน

มหายันต์มงคล นกยูงทอง คาถายันต์จากเทพประทาน

มอบไว้เพื่อความเป็นมหาศิริมงคล แด่ผู้ศรัทธา ขอให้แคล้วคลาด เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย เป็นที่รักใคร่แด่คนทั่วไป

“ครู”  คือผู้สั่งสอนวิชาความรู้  อบรมจรรยามารยาทให้แก่ศิษย์

“บา”  เป็นภาษาถิ่น (ทางเหนือ) หมายถึงพระภิกษุสงฆ์  ที่มีพรรษามาก  เป็นที่เคารพเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั่วไปเพราะสมัยก่อนการศึกษาจะมีพระเป็นผู้สอน  

ดังนั้นจึงทำหน้าที่เป็นครูไปด้วย  ดังนั้นจึงนำคำว่า “ครู” มาซ้อนกับคำว่า  “บา”  กลายเป็น “ครูบาอาจารย์”

ในภาษาไทย ครูบา คือ อาจารย์หรือผู้สอน เดิมเรียกคล้องจองกันว่า ครูบาอาจารย์ คำเรียกขานนำหน้าพระสงฆ์ว่า “ครูบา” นั้นประชาชนชาวทางอีสาน หมายถึงพระบวชใหม่ เป็นศัพท์เดิมของทางอีสาน ที่มีการใช้เรียกขานกันมานาน บางท้องที่เรียกครูบาทั้งพระเก่าพระใหม่  

 แต่สำหรับคำว่า “ครูบา” ในความหมายของทางภาคเหนือนั้นกับตรงข้ามกับทางภาคอีสานซึ่งทางภาคเหนือนั้นจะนิยมเรียกขานที่มีหมายความเรียกถึงพระสงฆ์ที่มีพรรษาสูง หรือเป็นที่เคารพบูชา หรือเป็นผู้มีคุณธรรมเมตตาบารมีสูงส่ง

   

ดอยดวงแก้ว

ในทางเหนือ  “ครูบา” นั้นยังหมายถึงพระภิกษุผู้ทรงคุณความรู้  เป็นที่เคารพศรัทธาอย่างยิ่งสำหรับคนทั่วไป ที่เป็นที่เคารพนับถือ กอปรด้วยบารมีคุณ พุทธคุณ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

ปัจจุบันพระภิกษุสงฆ์ในเขตทางภาคเหนือนั้น ที่ประชาชนให้การยกย่อง นับถือ ว่าเป็นครูบา นั้นส่วนมากมักจะมีอายุในทางโลกนั้นมากตั้งแต่อายุประมาณ ๕๐-๖๐ ปี ขึ้นไปจึงมักจะได้รับการเรียกขานว่า ครูบา

แต่สำหรับเรื่องราวต่อไปนี้ที่จะนำเสนอให้สาธุชนได้รับทราบนั้นเป็นเรื่องราวของครูบารูปหนึ่ง ซึ่งเป็นที่น่าประหลาดอัศจรรย์ใจแก่สาธุชนยิ่งนัก เพราะท่านเพิ่งได้ก้าวผ่านพ้นจากวัยสามเณร แล้วได้รับการยอมรับขึ้นมาเป็น ครูบา ท่ามกลางการยอมรับจากสาธุชนได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งๆที่ท่านมีวัยเพียง ๒๒ ปีเท่านั้น แต่เหตุใดผู้คนทั้งหลายจึงให้การยอมรับและเรียกขานท่านว่า  “ครูบา” ดอยดวงแก้ว

ดอยดวงแก้ว

-หรือเป็นเพราะว่าท่านเป็นพระหนุ่มรูปงามงดงามทั้งกิริยามารยาททั้งภายนอกและภายใน

-หรือเป็นเพราะท่านมีชื่อแปลกอัศจรรย์ที่ได้รับการตั้งชื่อนับตั้งแต่วันกำเนิด

-หรือเป็นเพราะได้รับการถ่ายทอดศาสตร์วิชาอาคม ยันต์ อักขระ ทางล้านนาในแขนงต่างๆได้นำมาฝึกฝนจนมีความช่ำชอง ชำนาญในวิชาที่แตกฉาน

-หรือเป็นเพราะท่านมี ความทนอด และอดทน ต่อการถูกใส่ร้ายนินทาต่างๆนานจนสามารถผ่านอุปสรรคนั้นมาได้

-หรือเป็นเพราะท่านได้รับการยอมรับในพลังอำนาจจิตที่มีความเชื่อถือตั้งแต่เป็นสามเณร จึงมีผู้เรียกขานท่านว่า “ครูบาเณร”

-หรือเป็นเพราะท่านมีจิตใจเด็ดเดี่ยวในการบำเพ็ญภาวนานั่งสมาธิติดต่อกันทั้งกลางวันและกลางคืนติดต่อกันนานถึง ๗ วัน เป็นระยะเวลาติดต่อกัน ๕ ครั้ง

-หรือเป็นเพราะเหตุที่ท่านมาพำนักสร้างสถานธรรมดอยดวงแก้วสัพพัญญู แห่งนี้เพราะจิตเดิมนับแต่อดีตชาติตั้งเจตจำนงที่จะมาปลดปล่อยดวงวิญญาณทหารที่ล้มตายจากการสู้รบจำนวนมากมายในสถานที่แห่งนี้ได้เสวยบุญ

-หรือเป็นเพราะท่านได้รับคำพยากรณ์จากครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร ผู้ที่ใน

อดีตชาตินั้นท่านเคยเกิดเป็นครูบาศรีวิชัยมาก่อน และเป็นผู้ที่จะได้มาตรัสรู้

เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอนในอนาคตได้กล่าวถึงท่านครูบารูปนี้ว่า

“หน่อพุทธภูมิเก่ากำลังจะหมดไป(เพื่อจะไปเป็นพระพุทธเจ้า) หน่อพุทธภูมิใหม่กำลังเกิดขึ้นมาแทน”

-หรือเป็นเพราะท่านเป็นผู้มีวิชา พลังอำนาจจิต ที่เก็บซ่อนไว้ไม่เปิดเผยให้ใครทราบ ยากแก่การหยั่งรู้ได้ของคนทั่วไป จึงเป็นเสมือนเสือที่ซ่อนเล็บไว้ รอเวลาที่จะผงาดบุญเมตตามหาบารมีมงคลธรรมสู่สาธารณชน

เรื่องราวของท่านมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจเพียงใด เหตุใดครูบาอายุยัง

น้อยรูปนี้ จึงเป็นที่น่าสนใจจับตามองแก่พุทธศาสนิกชนยิ่งนัก ครูบาหนุ่มน้อย

รูปงาม ผู้มีรูปร่างสัดส่วนสง่างามสมส่วน ผิวพรรณเกลี้ยงเกลา หน้าตาอย่าง

เทพบุตรจำแลงมาจุติ 

ผู้มีนามว่า ครูบาชัยยาปัถพี ชัยยรัตนจิตโต หรือ “พระครูบาชัยยาปัถพี” แห่ง สถานธรรมดอยดวงแก้วสัพพัญญู บ้านทุ่งม่านเหนือ ต.เวียงกาหลง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย 

เชิญท่องเที่ยววัดดอยดวงแก้ว

เที่ยวเชียงใหม่ เชิญชม วัดพระสิงห์วรวิหาร

ขอบคุณข้อมูลจาก http://phayai.blogspot.com/2013/07/blog-post_29.html