ครูบา ศรีวิชัยความเข้าใจของคนในสังคมปัจจุบัน

       กระแสการผลิตซ้ำและสร้างภาพลักษณ์ ครูบา ศรีวิชัย ทำให้ครูบาศรีวิชัยเป็นที่รู้จักของผู้คนในสังคมมากยิ่งขึ้น และขยายออกไปสู่ผู้คนในพื้นที่อื่นที่ไม่ใช่เพียงแค่คนในภาคเหนือเท่านั้นโดยส่วนใหญ่มักรู้จักครูบาศรีวิชัยในฐานะพระเกจิหรืออริยสงฆ์รูปสำคัญ เป็นปูชนียบุคคล ผู้เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชน ผู้สร้างคุณประโยชน์แก่สาธารณชน และเป็น 1 ใน 17 พระอริยสงฆ์สำคัญของพุทธศาสนาไทยที่ปรากฏในพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย หรือรู้จักเพียงแค่เป็น “ตนบุญแห่งล้านนาไทย” และ เป็นพระนักพัฒนาผู้สร้างทางขึ้นดอยสุเทพ เป็นพระผู้มีบารมีสามารถบูรณะสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาในภาคเหนือ มีผู้คนเลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก ดังคำกล่าวของ ป้าสุภาพ อังศุกสิกร ชาวจังหวัดลพบุรีซึ่งถือเป็นบุคคลหนึ่งที่มีความศรัทธาต่อตัว ครูบาศรีวิชัยและกลุ่มครูบาคติใหม่ด้วย โดยมีการรับรู้และมีความเข้าใจเกี่ยวกับครูบาศรีวิชัยที่กระชับ และมีนัยที่คล้ายคลึงกับกลุ่มคนที่ผู้เขียนได้สัมภาษณ์กว่า 23 ท่าน ผู้เขียนจึงยกคำอธิบายนี มาเป็นตัวแทนของคำอธิบายของบุคคลท่านอื่น ๆ โดยได้อธิบายถึงการรับรู้เกี่ยวกับครูบาศรีวิชัยว่า

“…ครูบาที่รู้จักก็เป็นครูบาศรีวิชัยนิเป็นนักบุญแห่งล้านนาไทย ที่สร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ
ท่านมีบารมีสูงนะ ถ้าไม่มีบารมีจะไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้…”

         หรือเข้าใจว่าครูบาศรีวิชัยเป็นต้นแบบหรือลักษณะของการเป็น “ครูบา” โดยคนส่วนใหญ่มักอธิบายถึงคุณสมบัติของ “ครูบา” เชื่อมโยงถึงครูบาศรีวิชัยเป็นหลัก ดังคำอธิบายพระราชปริยัติเมธีรองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ กรรมการสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นพระสงฆ์ที่มีบทบาทสำคัญของคณะสงฆ์ในภาคเหนือ และการรับรู้ของท่านถือเป็นภาพสะท้อนการรับรู้และความเข้าใจของกลุ่มพระสงฆ์ส่วนใหญ่ในภาคเหนือต่อครูบาศรีวิชัยได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกันโดยท่านได้กล่าวว่า

“…เมืองเชียงใหม่ทุกวันนี้เรายกย่องครูบาโดยไม่ได้มองความประพฤติ เรามองแค่รูปลักษณ์ที่เป็นรูปธรรมมากเกินไป…ประการสำคัญที่ผมอยากเล่าให้ฟังคือเรื่องครูบา เช่น ครูบาศรีวิชัยนั้นถือเป็นแม่แบบ เมื่อเราเห็นว่านี่เป็นลักษณะครูบา เราก็ควรยกย่องส่งเสริมกัน…” 

        ไม่เพียงเท่านั้นลักษณะการแต่งกายของครูบาศรีวิชัยผ่านภาพถ่ายจำนวนมากอย่างต่อเนื่องยังทำให้เข้าใจว่าเป็นลักษณะการแต่งกายแบบ “ครูบา” ซึ่ง “ครูบา” ในอดีตไม่จำเป็นจะต้องแต่งตัวในลักษณะเช่นนี้ก็ได้ ดังนั้นเมื่อพระสงฆ์รูปใดในปัจจุบันแต่งกายในลักษณะดังกล่าวมักจะถูกมองจากผู้คนว่าเป็น “ครูบา” และมักจะได้รับการเรียกขานว่า “ครูบา” ด้วยเช่นกัน ลักษณะเช่นนี้จึงเป็นอีกจุดสำคัญหนึ่งที่สะท้อนความแตกต่างระหว่างครูบาแบบเก่าและครูบาคติใหม่ได้อย่างชัดเจน

       ภาพลักษณ์ครูบาศรีวิชัยที่ครูบาคติใหม่หยิบยืมไปสร้างเอกลักษณ์ให้แก่ตนเองนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ท าให้ผู้คนในสังคมเกิดความสนใจและเกิดความเลื่อมใสศรัทธาต่อครูบาคติใหม่ เนื่องด้วยเป็นภาพลักษณ์พระสงฆ์ (ในอุดมคติ) ที่ผู้คนในสังคมต่างแสวงหา เช่น พระผู้มากด้วยบุญบารมี หรือ “ตนบุญ”พระเกจิ และการเป็นพระนักพัฒนาจากการศึกษาพบว่า ผู้คนในปัจจุบันยังคงมีความเชื่อที่เกี่ยวกับเรื่องโลกกึ่งพุทธกาล โดยเชื่อว่าภายหลังยุคกึ่งพุทธกาลจะเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ขึ้นมากมาย หรือที่เรียกว่า “กลียุค” และจะบังเกิด“ตนบุญ” มาค้ำจุนพุทธศาสนาให้อยู่ครบห้าพันปีตามคำพุทธทำนาย ซึ่งความเชื่อดังกล่าวยังคงปรากฏเป็นคำทำนายมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน (พัชรดา จุลเพชร, 2548)

         เพราะฉะนั้นผู้คนจึงเชื่อกันว่าการเกิดขึ้นของ “กลุ่มครูบาคติใหม่” เป็นส่วนหนึ่งของการลงมาเกิดของ “ตนบุญ” “โพธิสัตว์” ซึ่งวสันต์ได้อธิบายแนวคิดความเชื่อดังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า “ตนบุญ” เป็นรูปแบบหนึ่งของศาสนาพุทธเถรวาทนิกายโยน4ที่มีแนวปฏิบัติเฉพาะและวางอยู่บนฐานความคิดความเชื่อในเรื่องพระโพธิสัตว์ ดังสะท้อนผ่านการธุดงค์เผยแพร่ศาสนา ประเพณีการเดินทางไกลเพื่อจาริกแสวงบุญ และการทำนุบำรุงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในพุทธศาสนา ภายใต้การนำของครูบาหรือพระสงฆ์ผู้มีบุญบารมีซึ่งส่งผลให้สาธุชนทั่วไปมีโอกาสได้ “สร้างบุญ” ผ่านการทำบุญทำทานภายใต้การน าของ “ครูบา” รูปนั้นๆ 

        ความเชื่ออีกประการหนึ่งที่สัมพันธ์กับภาพลักษณ์ของครูบาศรีวิชัย คือ ความเชื่อเรื่อง“ตัวกลางที่ดี” ในการสร้างบุญ โดยผู้คนยังคงความเชื่อว่าหากได้ร่วมบุญกับพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ หรือมีฌานสมาบัติที่สูง จะได้รับผลบุญที่มากกว่าการทำบุญร่วมกับพระสงฆ์ทั่วไป เช่นนั้นครูบาคติใหม่ในฐานะครูบาตนบุญหรือผู้มีบุญ (ในความเชื่อของชาวบ้าน) จึงถือเป็นหนึ่งในกลุ่มพระสงฆ์ภายใต้แนวคิดความเชื่อเรื่อง “ตัวกลางที่ดี” ดังที่กล่าวมานี้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจากพื้นฐานความเชื่อสำคัญทั้ง 2 ประการของผู้คนกลุ่มหนึ่งในสังคม ครูบาบุญชุ่ม พระเกจิอาจารย์ผู้ศรัทธา 4 แผ่นดิน

        ต่างเป็นปัจจัยที่ทำให้กลุ่มคนเหล่านั้นต่างแสวงหาพระสงฆ์กลุ่มที่มีลักษณะที่สัมพันธ์กับแนวคิดความเชื่อดังกล่าว ผู้คนจำนวนมากจึงหลั่งไหลเข้ามาเลื่อมใสศรัทธาในตัวครูบาคติใหม่ ด้วยเชื่อว่าครูบาคติใหม่เป็นพระสงฆ์ผู้ทรงด้วยบุญบารมีที่สั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติ เป็นพระสงฆ์ผู้เคร่งครัดและเชื่อว่ามีฌานบารมีที่สูงกว่าพระสงฆ์ทั่วไป เป็น “ตนบุญ” หรือ “ผู้มีบุญ” ลงมาบังเกิดเพื่อน าพาผู้คนสร้างและสั่งสมบุญเพื่อนำพาผู้คนช่วยกันธำรงรักษาไว้ศึกษาพระพุทธศาสนาให้ครบ 5,000 พรรษาไม่เพียงเท่านั้นยังเชื่อว่าการสร้างบุญกับครูบาคติใหม่หรือพระสงฆ์ที่อยู่ภายใต้แนวคิดความเชื่อนี้

         ผลบุญดังกล่าวยังสามารถช่วยให้เขารอดพ้นกับการเผชิญปัญหาที่จะเกิดในโลกปัจจุบันเช่นกันอาทิ ปัญหาครอบครัว ปัญหาการงานการเงิน ปัญหาความไม่เท่าเทียมทางสังคม เป็นต้น และด้วยสภาวะปัญหาเหล่านี เช่นกัน จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ท าให้ครูบาคติใหม่ต้องปรับตัวเพื่อให้ตนเองสามารถตอบสนองต่อสภาวะความไม่มั่นคงเหล่านี ของคนในสังคมได้ด้วย ซึ่งจะกล่าวต่อไป ดังนั้น การปรับตัวของครูบาคติใหม่ จึงเปรียบเสมือนทำตนเองให้มีลักษณะคล้ายกับสินค้าที่เป็นวัตถุอื่น ๆ เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม เสื้อผ้าแบรนด์เนม นาฬิกาแบรนด์เนม ที่จะต้องมีการโฆษณานำเสนอภาพลักษณ์ ความน่าสนใจ คุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงดึงดูดและความสนใจแก่ผู้คนให้เลือกบริโภคสินค้านั้น ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของเขาเหล่านั้นไม่ว่าจะในแง่ของวัตถุหรือจิตใจ

เชิญท่องเที่ยววัดดอยดวงแก้ว